ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ คู่มือเที่ยวตุรกี ใช้งบเท่าไหร่? ไปเดือนไหนดี? มีที่เที่ยวอะไรบ้าง? ที่นี่มีคำตอบ!
ถ้าหากใครต้องการไปเที่ยวต่างประเทศในประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามและหลากหลาย ตุรกีเป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะมีทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามจากยุคโรมันโบราณ ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่แปลกตา ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นประเทศที่เที่ยวค่อนข้างง่ายและราคาไม่แพงมากอีกด้วย
สำหรับใครที่อยากเที่ยวตุรกีด้วยตนเอง แรบบิท แคร์ได้รวบรวมคู่มือเที่ยวตุรกีเพื่อตอบคำถามต่าง ๆ ทั้ง เที่ยวตุรกีต้องขอวีซ่าไหม ใช้งบเท่าไหร่ ไปเดือนไหนดี ควรแต่งตัวอย่างไร มีที่เที่ยวตุรกีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง มาให้ทุกคนแล้ว
เที่ยวตุรกีต้องขอวีซ่าไหม
ขั้นตอนแรก ๆ สำหรับการว่างแผนไปเที่ยวก็คือการตรวจสอบข้อกำหนดในการเดินทางเข้าประเทศนั้น ๆ ซึ่งข้อดีอย่างหนึ่งของการไปเที่ยวตุรกีก็คือคนไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวได้โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเป็นเวลาไม่เกิน 30 วัน
นอกจากนี้ ตุรกียังได้ยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดแล้ว โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศตุรกีไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือผลตรวจ RT-PCR ที่เป็นลบอีกต่อไป
เที่ยวตุรกีใช้งบเท่าไหร่
สำหรับการคำนวณงบว่าเที่ยวตุรกีใช้งบเท่าไหร่ ก็จะขึ้นอยู่กับว่าเราอยากเที่ยวแบบไหน เพราะแต่ละคนก็จะมีสไตล์การเที่ยวไม่เหมือนกัน โดยในที่นี้เราจะแบ่งสไตล์การเที่ยวออกเป็น 3 แบบ คือ สไตล์ประหยัด สไตล์สบาย ๆ และสไตล์หรูหรา และแบ่งค่าใช้จ่ายออกมาเป็น 4 ก้อน คือค่าเครื่องบิน ค่าโรงแรม ค่าอาหาร และค่ากิจกรรมต่าง ๆ มาดูกันว่าการเที่ยวตุรกีจะใช้งบเท่าไหร่กันบ้าง
งบเที่ยวตุรกีสไตล์ประหยัด
การเที่ยวตุรกีสไตล์ประหยัดต้องเริ่มจำกัดงบด้วยการจองตั๋วเครื่องบินให้ถูกที่สุด โดยเลือกจองตั๋วชั้น Economy แบบต่อเครื่อง รวมถึงจองในช่วงโปรหรือจองล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน ก็จะได้ราคาตั๋วประมาณ 15,000-22,000 ส่วนโรงแรม ถ้าเลือกโรงแรมระดับ 2-3 ดาว ราคาก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 400-800 บาทต่อคนต่อคืน ส่วนค่าอาหารถ้ากินตามร้านสตรีทฟู้ดง่าย ๆ ก็จะตกอยู่ประมาณมื้อละ 100-200 บาท สำหรับค่าเที่ยว ถ้าเน้นเที่ยวอยู่แค่ในอิสตันบูลและไปตามสถานที่ที่ไม่เสียค่าเข้า เช่น สุเหร่าสีน้ำเงิน วิหารเซนต์โซเฟีย และตลาดแกรนด์บาซาร์ ก็จะประหยัดเงินส่วนนี้ไปได้มาก
ดังนั้น งบสำหรับทริปเที่ยวตุรกี 6 วัน 5 คืนสไตล์ประหยัดก็จะใช้งบอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 บาท
งบเที่ยวตุรกีสไตล์สบาย ๆ
ใครที่อยากจะเที่ยวแบบสบาย ๆ ขึ้นมาหน่อยก็สามารถเลือกจองตั๋วเครื่องแบบ Premium Economy ได้ โดยราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 50,000-80,000 บาท ส่วนโรงแรม ถ้าเราเลือกพักโรงแรม 3-4 ดาว ราคาก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 1,500-3,000 บาทต่อคนต่อคืน ค่าอาหารถ้าเลือกนั่งร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ บ้างเป็นบางมื้อก็จะเฉลี่ยออกมาประมาณมื้อละ 300-500 บาท สำหรับค่าเที่ยว ถ้าเดินทางจากอิสตันบูลไปคัปปาโดเชียเพื่อขึ้นบอลลูน ก็จะเสียใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 7,000-10,000 บาท
ดังนั้น งบสำหรับทริปเที่ยวตุรกี 6 วัน 5 คืนแบบสบายกลาง ๆ ก็จะใช้งบอยู่ที่ประมาณ 70,000-114,000 บาท หรือถ้าจองตั๋ว Economy ช่วงโปร งบจะอยู่ที่ประมาณ 35,000-56,000
งบเที่ยวตุรกีสไตล์หรูหรา
สำหรับคนที่คิดว่าจะอยากจะเที่ยวตุรกีแบบหรูหรา เที่ยวทั้งทีต้องจัดเต็มแบบสุด ก็ต้องจองตั๋วเครื่องบินแบบ First Class โดยราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 100,000-180,000 บาท ส่วนโรงแรมก็พักโรงแรม 5 ดาว ราคาก็มีตั้งแต่คืนละ 5,000-10,000 บาทต่อคน ค่าอาหารถ้าต้องการกินร้าน Fine Dining หรือร้านมิชลินสตาร์ หรือร้านสเต็กชื่อดัง ค่าใช้จ่ายก็อาจจะเฉลี่ยอยู่ที่มื้อละ 2,000-4,000 บาท ซึ่งถือว่าถูกพอสมควรสำหรับการเที่ยวต่างประเทศสไตล์นี้ สำหรับค่ากิจกรรมต่าง ๆ ถ้าต้องการประสบการณ์แบบ Exclusive อย่างเช่นการขึ้นบอลลูนแบบส่วนตัวหรือการเช่าเรือยอร์ชล่องผ่านช่องแคบบอสฟอรัสส่วนตัว ก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 17,000-30,000 บาท
ดังนั้น งบสำหรับทริปเที่ยวตุรกี 6 วัน 5 คืนสไตล์หรูหราสุด ๆ ก็จะใช้งบอยู่ที่ประมาณ 178,000-330,000 บาท
เที่ยวตุรกีเดือนไหนดี
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวตุรกีคือช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม (ช่วงฤดูใบไม้ผลิ) และช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม (ช่วงดูใบไม้ร่วง) เพราะว่าช่วงนี้สภาพอากาศจะไม่ร้อนจนเกินไปหรือหนาวจนเกินไป
นอกจากนี้ ช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะมากเหมือนช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม (ช่วงฤดูร้อน) ทำให้เที่ยวได้สนุกขึ้นและราคาโรงแรมก็จะไม่แพงมากด้วย
ช่วงที่ไม่น่าเที่ยวตุรกีมากที่สุดจะเป็นช่วงฤดูหนาว ซึ่งก็คือเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ช่วงนี้อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4 องศา ถึง 15 องศา และช่วงกลางคืนจะหนาวจนอุณหภูมิติดลบ อาจทำให้เที่ยวในบางจุดได้ไม่สะดวกมากนัก อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ราคาถูกที่สุด ดังนั้นถ้าใครอยากสัมผัสความหนาวแบบหิมะตกหรือต้องการเที่ยวตุรกีแบบประหยัด ก็อาจจะลองไปเที่ยวช่วงนี้ดูก็ได้ แต่ต้องเตรียมเสื้อผ้ามาให้พร้อมรับอากาศหนาวจัดด้วยนะ
เที่ยวตุรกีควรแต่งตัวอย่างไร
ตุรกีจะเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม อาจทำให้หลายคนกังวลเรื่องการแต่งกายว่าควรแต่งตัวอย่างไรให้เหมาะสม แต่ตุรกีค่อนข้างมีอิสระเสรีกว่าหลาย ๆ ประเทศ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงสามารถแต่งตัวได้ตามสบาย เพียงแค่ควรเตรียมเสื้อผ้าตามสภาพอากาศช่วงที่เดินทางเท่านั้น แต่ถ้าต้องการเข้าศาสนสถาน เช่น สุเหร่าต่าง ๆ ควรเลือกเสื้อผ้าที่มิดชิดมากขึ้น โดยผู้ชายควรใส่กางเกงขายาว และผู้หญิงควรคลุมศีรษะและสวมกางเกงหรือกระโปรงเลยเข่า รวมถึงไม่ควรใส่เสื้อแขนกุดและเสื้อคอลึก
การเดินทางในตุรกี
สำหรับการเดินทางในเมืองอิสตันบูล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้ขนส่งสาธารณะ เช่น เรือ รถไฟใต้ดิน รถบัส รถแทรม และรถราง โดยสามารถซื้อบัตร Istanbul Kart ได้ที่ซุ้มขายบัตรหน้าสถานีรถไฟ ท่าเรือ หรือรถบัส ราคาของบัตรจะอยู่ที่ 25 TL (46 บาท) แล้วจึงสามารถเลือกเติมเงินได้ตามที่ต้องการ โดยราคาต่อการเดินทาง 1 รอบจะอยู่ที่ 15 TL (28 บาท)
ส่วนการเดินทางข้ามเมืองนิยมเดินทางด้วยเครื่องบินหรือรถบัส โดยค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศก็ถือว่าไม่แพงมาก ขึ้นอยู่กับเวลาจองและโปรโมชัน เช่น ตั๋วเครื่องบินจากอิสตันบูลไปไกเซรี ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้คัปปาโดเชียมากที่สุด จะมีราคาอยู่ที่ 1,500-3,000 บาท และใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ส่วนถ้าเดินทางด้วยรถบัสราคาตั๋วจะอยู่ที่ 350 TL (650 บาท) แต่จะใช้เวลาเดินทางนานถึง 10-12 ชั่วโมงเลยทีเดียว
แนะนำที่เที่ยวตุรกี
ประเทศตุรกีเป็นประเทศที่ใหญ่พอสมควร โดยมีพื้นที่โดยรวมมากกว่าประเทศไทยอยู่ประมาณ 1.5 เท่า ทำให้ที่เที่ยวตุรกีที่ดัง ๆ จะอยู่ค่อนข้างห่างไกลกันพอสมควร โดยน้องแคร์แนะนำที่เที่ยวในอิสตันบูล ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยโบราณ และสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอื่นที่ถ้ายังไม่ได้มาถือว่ายังมาไม่ถึงตุรกี ดังนี้
สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
สุเหร่าสีน้ำเงินหรือสุเหร่าสุลต่านอาเหม็ดถือเป็นที่เที่ยวตุรกีที่ขึ้นชื่อจนนักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาให้ได้สักครั้ง เนื่องจากเป็นหนึ่งในสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีการตกแต่งอย่างงดงามตระการตา ภายในประดับด้วยกระเบื้องและกระจกสีฟ้าเป็นลวดลายดอกไม้ต่าง ๆ เป็นที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินนั่นเอง
สุเหร่าฮาเกีย โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia)
สุเหร่าฮาเกีย โซเฟียหรือวิหารเซนต์โซเฟียเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวตุรกีที่น่าสนใจในอิสตันบูล เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตามแบบศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
ตลาดแกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar)
หลังจากแนะนำที่เที่ยวตุรกีสายประวัติศาสตร์กันไปแล้ว ที่เที่ยวถัดไปขอแนะนำเป็นที่เที่ยวสำหรับสายช็อปกันบ้าง นั่นก็คือตลาดแกรนด์บาซาร์นั่นเอง ซึ่งตลาดแห่งนี้เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอิสตันบูลและมีร้านค้าอยู่มากกว่า 4,000 ร้าน เหมาะกับการซื้อของฝาก เครื่องประดับ เครื่องเซรามิก เครื่องหนัง และอื่น ๆ อีกมากมาย
คัปปาโดเชีย (Cappadocia)
เมื่อพูดถึงที่เที่ยวตุรกีแล้ว จะไม่พูดถึงคัปปาโดเชียอันโด่งดังคงไม่ได้แน่นอน เพราะหลายคนคงจะเคยเห็นภาพบอลลูนสีสันสดใสลอยตัดกับท้องฟ้าและภูเขาที่สวยงามกันมาแล้ว ซึ่งคัปปาโดเชียนี่แหละคือเมืองบอลลูนที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปให้ได้ คัปปาโดเชียเป็นเมืองมรดกโลกที่อยู่ห่างจากอิสตันบูลประมาณ 800 กิโลเมตรและมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น ปล่องนางฟ้าและพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม
ปามุคคาเล่ (Pamukkale)
ปามุคคาเล่หรือปราสาทปุยฝ้ายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โด่งดังอีกแห่งหนึ่งของตุรกี โดยได้ชื่อมาจากน้ำตกเป็นหินปูสีขาวที่เกิดจากธารน้ำใต้ดินที่มองแล้วเหมือนปุยฝ้าย และยังมีแอ่งน้ำสีฟ้าใสลดหลั่นลงมาเป็นขั้น ๆ สวยแปลกตาจนเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวตุรกีที่ต้องมาให้ได้เช่นเดียวกัน ปามุคคาเล่เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากอิสตันบูลประมาณ 600 กิโลเมตรและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
ทั้งหมดนี้ก็คือคู่มือเที่ยวตุรกีสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเข้าประเทศ ช่วงเวลาที่ควรไปเที่ยว การแต่งตัว การคำนวณงบประมาณ ไปจนถึงที่เที่ยวตุรกีที่พลาดไม่ได้ หลังจากวางแผนเที่ยวแล้ว อย่าลืมหาบัตรเครดิตติดตัวไปด้วยสักใบเพื่อรับสิทธิประโยชน์และสะสมแต้ม เพิ่มความคุ้มค่าให้กับการไปเที่ยวครั้งนี้กันด้วยนะ
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
