ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจ สมัครบัตรกดเงินสด
“.. โอ่ย โอย โอย โอ๊ย แต่เงินมีไหม เงินน่ะมีไหม เงินน่ะมีไหม?? ”
ตอบได้เลยค่ะว่า ไม่มี ก็แหม่สมัยนี้เงินทองมันหายากจะตายไป แม้จะมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่ถ้าต้องจ่ายไปกับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเหตุด่วนจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องหนักหนาเอาเรื่องเหมือนกัน เพราะบางคนก็ไม่ได้มีเงินสำรองอยู่ตลอดเวลา ครั้นจะพึ่ง ทางออกทางการเงินอย่างบัตรกดเงินสดหรือก็ยังไม่รู้ว่าจะสมัครทิ้งไว้ดีหรือเปล่า
เอาเป็นว่าหากใครกำลังอยากจะ สมัครบัตรกดเงินสดไว้เพื่อการใช้จ่ายยามฉุกเฉิน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะสมัครดีหรือไม่ วันนี้เราจะมาช่วยคุณตัดสินใจค่ะ
ข้อควรรู้ก่อนคิดจะทำบัตรกดเงินสด
การที่จะ สร้างตัวช่วยเสริมเรื่องการเงินอย่าง บัตรคเครดิต หรือบัตรกดเงินสด แน่นอนว่าเป็นเรื่องดีที่ตัวคุณเองจะมีเงินรองรับในสถานการณ์ฉุกเฉิน
แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะทำก็ควรที่จะศึกษา และ เรียนรู้ทำความเข้าใจก่อนสมัคร ไม่ว่าจะใน ขั้นตอน ข้อดี ข้อเสีย หรือรวมไปถึงผลกระทบที่อาจจะตามมาหลังจากทำบัตรกดเงินสดไปแล้ว ซึ่งเรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
-
โฆษณาดอกเบี้ยต่อเดือน
สำหรับคำโฆษณาแน่นอนว่าทำมาเพื่อให้ผู้บริโภคสนใจที่จะไปใช้บริการ เช่น ใครจะให้ดอกเบี้ยถูกที่สุด ดอกเบี้ยเจ้าไหนจะถูกกว่ากัน โดยเฉพาะโฆษณาที่บอกว่าดอกเบี้ยต่อเดือนน้อย หรือดอกเบี้ย 0% แต่จริงแล้วหากเป็นอัตราดอกเบี้ยต่อเดือนต้องคูณด้วย 12 จึงจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง
-
คำนวณรวมตัวเลขค่าใช้จ่ายที่จะเสีย
ในการใช้บัตรกดเงินสดแต่ละครั้ง ไม่ควรจะคิดคำนวณเพียงแค่ อัตราดอกเบี้ย แต่ควรนำค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาคิด ไม่ว่าจะเป็นอัตราค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการอื่นๆ เพราะในบัตรกดเงินสดบางประเภท แม้จะมีดอกเบี้ยที่ถูกก็จริง
แต่เมื่อนำมารวมกับค่าธรรมเนียมต่างๆแล้ว จะเห็นว่าเงินที่ต้องจ่ายไปทั้งหมดอาจจะแพงกว่าบัตรกดเงินสดประเภทอื่นๆอีก ดังนั้นก่อนที่จะสมัครบัตรดเงินสดใดๆ ควรที่จะศึกษาในเรื่องของค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วย
-
เพดานดอกเบี้ยของการเก็บค่าธรรมเนียม
เพราะเหล่าธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย และได้มีการออกกฎห้ามธนาคาร และ Non-Bank คิดอัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมลูกค้าเกินอัตรานี้
1. ธนาคารจะเรียกเก็บค่าอัตราดอกเบี้ยปกติ ดอกเบี้ยผิดนัด ค่าบริการ หรือเบี้ยปรับในกรณีชำระเบี้ยล่าช้า เมื่อคำนวณรวมกันแล้ว จะไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี
2. ในกรณีของ Non-Bank จะเรียกเก็บค่าอัตราดอกเบี้ยปกติ ดอกเบี้ยผิดนัด ค่าบริการ หรือเบี้ยปรับในกรณีชำระเบี้ยล่าช้า เมื่อคำนวณรวมกันแล้ว จะไม่เกินร้อยละ15 ต่อปี
ค่าใช้จ่ายจิปาถะ
นอกเหนือจากอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆแล้ว หากคุณใช้บริการบัตรกดเงินสด ไม่ว่าจะกับธนาคารหรือ Non-Bank อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก เช่น
- ค่าภาษีอากรแสตมป์
- ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการตรวจสอบข้อมูลเครดิต
- ตลอดจนค่าใช้จ่ายกรณีที่เงินในบัญชีของผู้ขอสินเชื่อไม่พอจ่าย
ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ผู้ใช้บัตรก็ควรคำนึงถึงด้วยตอนที่จะไปยื่นขอทำบัตรกดเงินสดใดๆ ดังนั้น หากคุณต้องการที่ จะทำบัตรกดเงินสดทำใจไว้เลยว่า คุณจะไม่ได้เสียแค่ค่าอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น
ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆตามมาอีกมาก เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาที่อาจจะตามมาภายหลัง ก่อนทำบัตรคุณควรคิดวิเคราะห์ การใช้เงินของตนเองให้ดีก่อนว่าจะเหมาะไหมที่จะทำบัตรกดเงินสด
ข้อดี ข้อเสียของบัตรกดเงินสด
ทุกสิ่งบนโลกย่อมมีข้อดีข้อเสีย บัตรกดเงินสดก็เช่นกัน เรามาเช็คดูสิว่าบัตรกดเงินสดจะมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
ข้อดีของบัตรกดเงินสด
1. ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า
บัตรกดเงินสดจากธนาคาร และสถาบันการเงินหลายแห่ง มักจะฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าธรรมเนียมรายปี รวมถึง ฟรีในค่าธรรมเนียมในการเบิกเงินสดล่วงหน้า และสามารถที่จะกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มได้ตลอด ทุกธนาคาร 24 ชม.
2. คิดดอกเบี้ยตามยอดที่ใช้จริง
ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด จะถูกคิดตามยอดที่ใช้จริงเท่านั้น นั่นหมายความว่า หากคุณไม่ได้กดเงินออกมาใช้ ก็จะไม่เสียดอกเบี้ยนั่นเองค่ะ
3. เลือกจ่ายได้หลายแบบ
เมื่อคุณกดเงินจากบัตรกดเงินสดออกมาใช้ สามารถเลือกชำระเงินตามที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็น ชำระเงินเต็มจำนวน ชำระคืนขั้นต่ำ 3% – 5% ของยอดใช้จ่าย หรือ 500 บาทขึ้นไป
4. สมัครง่าย ไม่ต้องมีคนค้ำ
บัตรกดเงินสดเป็นบัตรที่สมัครง่าย อนุมัติเร็ว โดยไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน
ข้อเสียของบัตรกดเงินสด
1. ดอกเบี้ยสูงหากผิดนัดชำระเงิน
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดจะถูกคิดต่อเมื่อคุณมีการกดเงินออกมาใช้แล้ว และหากคุณไม่สามารถที่จะชำระเงินคืนเต็มจำนวนได้ จะต้องเสียดอกเบี้ยที่สูงมากตั้งแต่ 20% – 28% ต่อปี
2. มีหนี้คงค้างจากการจ่ายขั้นต่ำ
แม้กำหนดในการชำระเงินคืนขั้นต่ำเดือนละ 3% – 5% ของยอดหนี้ที่คงค้าง แต่ก็เป็นข้อเสียเนื่องจากเป็นการชำระเงินที่น้อย หนี้คงค้างก็จะเหลือมาก ทางที่ดีควรชำระหนี้ให้หมดในระยะเวลาที่ปลอดดอกเบี้ย
เทคนิคสมัครบัตรกดเงินสดให้ผ่านง่ายๆ
-
ตรวจสอบความพร้อมของตัวเอง
ก่อนคุณจะสมัครบัตรกดเงินสดใดๆ ความพร้อมของตัวคุณเองเป็นสิ่งสำคัญ การเช็คตัวเองว่าต้องการสมัครบัตรกดเงินสดไปเพื่ออะไร หากต้องการมีไว้เพื่อเป็นเงินทุนสำรองยามฉุกเฉิน ไม่ได้นำไปใช้กับเรื่องที่ม่จำเป็น ก็เป็นเรื่องที่เหมาะหากจะสมัคร
-
รายได้ที่ได้รับ
การมีอัตราเงินเดือนพอดีกับที่เงื่อนไขการสมัครกำหนด อาจจะไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าคุณจะสมัครบัตรกดเงินสดผ่าน เช่น การที่คุณมีเงินเดือน 15,000 ก็ใช่ว่าคุณจะมีคุณสมบัติผ่านการสมัคร แต่หากคุณมีเงินเดือนที่ได้รับต่อเดือนเกินมาสัก 17000 ก็อาจจะมีโอกาสสมัครบัตรผ่านมากกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ การพิจาณาของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง
-
หน้าที่การงาน
สถาบันการเงินส่วนใหญ่ มักกำหนดคุณสมบัติผู้สมัครต้องมีอายุงาน 3 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่ผ่านการทดทองงานแล้ว หน้าที่การงานจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเพราะถือเป็น การยืนยันตัวตนของผู้สมัครอีกแบบหนึ่งว่ามีงานทำที่แน่นอน และมีความสามารถพอที่จะชดใช้ชำระเงินที่กดออกมา
-
ประวัติหนี้สิน
สิ่งสุดท้ายที่สถาบันการเงินจะตรวจสอบดู คือ ประวัติการชำระหนี้สิน ว่าคุณมีหนี้สินอื่นๆที่กำลังชำระอยู่หรือไม่ เพราะหากคุณยังมีหนี้สินอื่นๆเป็นจำนวนมาก การพิจารณาสมัครบัตรกดเงินสดนั้น ก็อาจจะตกไป
ทุกการใช้จ่ายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากคุณนำ บัตรกดเงินสด ที่ได้มาไปใช้ในทางที่ผิด ก็อาจจะทำให้คุณเกิดปัญหาหนี้สินตามมา ดังนั้น คุณควรคิดวิเคราะห์ให้ดีก่อน เพราะบัตรกดเงินสดนั้น เหมาะกับการใช้จ่ายยามฉุกเฉินมากที่สุด เพื่อเป็นการรองรับสถานการณ์ทางการเงินที่คาดไม่ถึง
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
