4 เทรนด์ออกกำลังกาย สุดชิคปี 2019 ไม่ตามไม่ได้แล้ว!

ช่วงหลายปีผ่านมาเราเห็นผู้คนหันมา ออกกำลังกาย กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเข้าฟิตเนส เพราะหลาย ๆ คนใส่ใจในสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้ในปี 2019 เทรนด์รักสุขภาพ และการออกกำลังกายก็ยังฮิตเพิ่มทวีคูณอย่างต่อเนื่อง เพราะจะเห็นได้ว่า ธุรกิจด้านฟิตเนสมีการแข่งขันกันสูงมาก ต่างคิดค้นคอร์สแปลกๆ เพื่อมาดึงดูดเป็นจำนวนมาก แล้วในปี 2019 นี้ เทรนด์ออกกำลังกาย ใหม่ๆ มีอะไรกันบ้างเราไปดูกันเลยค่ะ
4 เทรนด์ออกกำลังกาย มาแรง
Aquabiking
เปลี่ยนบรรยากาศกับการออกกำลังกายแบบเดิมๆ มาเป็นออกกำลังกายในน้ำกันบ้าง การออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยในเรื่องลดแรงกระแทกของข้อต่อและเส้นเอ็น รวมถึงช่วยเรื่องขาให้กระชับสวย และบางท่าปั่นจะช่วยเรื่องก้นสวยด้วย
โดยจะมีแบ่งปั่นนาน 15 วินาที ปั่นนาน 30 วินาที ปั่นนาน 45 วินาที จนถึง 1 นาที แบบนี้สลับกันไปตามจังหวะเพลง นอกจากนี้แล้วยังช่วยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หายใจเข้าและออกในน้ำ มีบางท่าฝึกสมาธิ รวมถึงการรักษาสมดุลตัวเองด้วยการยืนขาเดียวในน้ำ และการช่วยเรื่องขาแตก ผิวเปลือกส้มอีกด้วย
Trampoline ขนาดยักษ์
เป็นสนามแทรมโพลีนในร่มขนาดยักษ์หลายแผ่นเชื่อมต่อกันตั้งแต่พื้นจรดกำแพง ไฮไลท์ทั้ง 4 โซน ได้แก่ พื้นที่ฟรีสไตล์, โซนสนุกๆ สำหรับเล่นแทรมโพลีนดอดจ์บอล, โซนแทรมโพลีนบาสเกตบอล และแทรมโพลีนกระโดดเด้งลงไปในบ่อโฟม
ทั้งนี้เล่นแทรมโพลีน 10 นาที เทียบเท่ากับการวิ่งจ๊อกกิ้งถึง 33 นาที โดยกีฬาประเภทนี้ช่วยเสริมสร้างแข็งแรง และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฮอร์โมนการเจริญเติบโต หรือช่วยเพิ่มความสูงนั่นเอง
Functional Training
กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก กับโปรแกรม Functional Training ที่ต้องการเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายให้สมดุล เป็นการออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกายแบบหนัก ที่ไม่ต่างกับฝึกทหาร แต่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน ลดน้ำหนัก และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี
โดยการออกกำลังกายประเภทนี้จะใช้อุปกรณ์การเคลื่อนไหวหลากหลายประเภท เช่น เชือกกระโดด อุปกรณ์อย่าง TRX (Total body Resistance exercise) ,ดัมเบล, บาร์เบล, ฟิตบอลหรือบอลโยคะ ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงให้ทุกส่วนได้ตามต้องการ
CrossFit
การออกกำลังกายสไตล์ CrossFit จะเป็นการฝึกอวัยวะภายใน ทั้งหัวใจ ปอด ไปจนถึง ความแข็งแรงทนทานของร่างกาย และเพิ่มพละกำลัง เป็นการออกกำลังกาย 3-4 รูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน เช่น คาร์ดิโอ, ยกน้ำหนัก, ยิมนาสติก
ทั้งนี้คนที่จะมาออกกำลังกายประเภท CrossFit จำเป็นต้องมีพื้นฐานการออกกำลังกายมาก่อน เพราะอย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า เป็นการฝึกความแข็งแรง ถ้าไม่มีพื้นฐานมาก่อนอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า คุณจะไม่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการออกกำลังกายได้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม และไม่ประมาทการเลือกทำประกันสุขภาพจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีให้กับสิ่งที่ไม่คิดฝันในอนาคตได้
ออกกำลังกาย แล้ว ทำไมต้องทำประสุขภาพ?
การทำประกันสุขภาพ เป็นการช่วยเพิ่มความคุ้มครองให้ครอบคลุมในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล ผู้ป่วยใน และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก แถมยังได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่กฎหมายกำหนดด้วย นอกจากนี้แล้วสาเหตุเพิ่มเติมที่เราจำเป็นต้องมีประกันสุขภาพนั้นคือ
ได้รับเงินชดเชยจากการเจ็บป่วย
การทำประกันสุขภาพก็เหมือนกับการวางแผนรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากเราดูแลร่างกายไม่ดีพออาจจะเกิดการเจ็บป่วยขึ้นได้ แต่ถ้าเราทำประกันสุขภาพไว้ก็เหมือนกับมีหลักประกันในอนาคต แถมเมื่อเกิดเจ็บป่วยเรายังได้เงินชดเชยด้วย อย่างไรก็ตามเงื่อนไขการชดเชยรายวันระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันของแต่ละบริษัท อาจแตกต่างกันออกไป
ไม่เป็นภาระของคนในครอบครัว
เพราะการทำประกันสุขภาพก็เหมือนกับการช่วยลดความเสี่ยงและภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลส่วนหนึ่ง ไปไว้ที่บริษัทประกัน เพราะหากเรามีอาการเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง แต่เราได้ทำประกันสุขภาพไว้ บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครอง และแน่นอนว่าบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแทน ซึ่งทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้มาก
การทำประกันสุขภาพถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ หากคุณมีความสนใจอยากซื้อประกันสุขภาพ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากไหน สามารถ คลิกเข้ามาได้ที่ Rabbit Care เรามีประกันสุขภาพหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกตรงทุกความต้องการ คลิกเข้ามาเลยนะคะ