แคร์ไลฟ์สไตล์

เช็กลิสต์ สำหรับคนวางแผนเรียนต่อต่างประเทศ

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี

close
Published January 16, 2020

เชื่อว่าการไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นเป้าหมาย หรือความฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ยังเป็นช่วงเวลาที่ได้ท่องเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองไปในตัว ซึ่งประเทศที่นักเรียนไทยสนใจก็มีทั้ง อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือประเทศใกล้บ้านอย่างจีน และญี่ปุ่น วันนี้ Rabbit Care เลยอยากแชร์ไอเดียดี ๆ ช่วยให้วางแผนเรียนต่อได้เป๊ะยิ่งขึ้น


เช็กลิสต์ 7 ข้อ สำหรับคนอยากเรียนต่อต่างประเทศ

1.เลือกสาขาที่สนใจ

การเรียนต่อต่างประเทศถือว่าเป็นโปรเจกต์ใหญ่สำหรับทุกคน และเป้าหมายสูงสุดก็คือการเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ และโอกาสดี ๆ กลับมาต่อยอดให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นการปักธงเลือกสาขาที่สนใจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่าลืมว่าการเรียนระดับปริญญาตรี-เอก ไม่ใช่เรื่องง่าย มีแรงกดดันรอบตัวมากมาย หากคุณได้เรียนในสิ่งที่ชอบ ได้ใช้เวลาศึกษาสิ่งที่สนใจ คุณก็จะมีแรงใจ หรือที่เรียกว่ามี Passion และอดทนจนคว้าปริญญาบัตรมาครองได้สำเร็จ

2.เฟ้นหามหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์

เมื่อได้สาขาที่ต้องการเรียนต่อแล้ว ขั้นต่อไปก็คือศึกษาข้อมูลของมหาวิทยาลัยหลาย ๆ แห่งที่โดดเด่นในสาขาที่คุณเลือก จากนั้นก็ลองเปรียบเทียบเงื่อนไขการรับสมัคร เช่น อายุ ผลการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน เป็นต้น รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลต่อการเรียนของคุณ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาของหลักสูตร ค่าเทอม ค่าที่พัก การเดินทาง รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ที่คุณอาจจะสนใจเข้าร่วม เมื่อได้มหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์ ก็เริ่มวางแผนสมัครเรียนกันได้เลย

3.วางแผนการเงิน

ต่อให้คุณเตรียมเอกสารพร้อมแค่ไหน มีผลการเรียนสูงลิบกว่าใคร แต่ถ้าการเงินไม่อำนวย หรือวางแผนใช้จ่ายไม่รัดกุม ก็อาจจะทำให้เจออุปสรรคระหว่างเรียนได้นะ ก่อนอื่นต้องมาเช็กดูว่าการเรียนต่อในมหาลัยที่เลือกนั้นมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เริ่มตั้งแต่ก่อนสมัคร คุณก็ต้องจ่ายค่าสอบ IELTS หรือ TOEFL ซึ่งบอกเลยว่าไม่น้อย ไหนจะค่าธรรมเนียมการขอเอกสารราชการ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเสื้อผ้า ค่าเทอม และยังต้องมีเงินติดกระเป๋าไว้ใช้จ่ายอีกนะ ยังไงก็ลองวางแผนกันให้ดี

4.เตรียมเอกสารสำคัญ

มหาวิทยาลัยชั้นนำส่วนใหญ่จะระบุเอกสารที่ต้องการจากผู้เรียนไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่รับสมัคร เพื่อให้คุณมีเวลาจัดการเอกสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ใบแสดงผลการเรียน (Transcript) ผลสอบ IELTS หรือ TOEFL หนังสือรับรองการทำงาน หนังสือรับรองจากอาจารย์ เรียงความ (Essay) รูปถ่าย ประวัติส่วนตัว (Resume) หนังสือรับรองสถาระทางการเงิน (Bank Statement) สำเนาพาสปอร์ต และวีซ่า แน่นอนว่าถ้าคุณเตรียมเอกสารได้ถูกต้องและครบถ้วน คุณก็จะได้เข้าศึกษาต่อสมใจ

5.สำรวจทำเลน่าอยู่

มาต่อกันที่การหาทำเลน่าอยู่ หลายคนอาจจะเลือกหอพักของมหาวิทยาลัยที่มีรูมเมทหลายคน แต่อีกหลายคนก็อยากหาห้องพักอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ซึ่ง Rabbit Care ขอแนะนำให้คุณเลือกที่พักในทำเลที่เดินทางไป-กลับจากมหาวิทยาลัยสะดวก เผื่อวันไหนอ่านหนังสือดึกดื่น หรือต้องไปร่วมกิจกรรมแต่เช้า จะได้ไม่ลำบาก นอกจากนี้ยังควรเลือกห้องพักที่อยู่ในย่านชุมชน มีรถโดยสารสาธารณะ มีร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และใกล้สถานีตำรวจ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้รับมืออย่างทันท่วงที

6.มองหาลู่ทางทำกิน

นักเรียนหลายคนหาเวลาว่างทำงานพิเศษ หรือ Part-Time Job เช่น พนักงานส่งอาหาร เจ้าหน้าที่ในสวนสนุก หรือบรรณารักษ์ตามห้องสมุดชุมชน เพื่อหารายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ใช้จ่าย เป็นการแบ่งเบาภาระทางการเงินของครอบครัว อีกทั้งงานเหล่านี้ยังทำให้คุณมีเพื่อนมากขึ้น และได้ประสบการณ์แปลกใหม่ เพียงแต่คุณต้องจัดสรรเวลาให้ดี แบ่งเวลาเรียน เวลาทำการบ้าน และเวลาว่างเพื่อหางานพิเศษให้ลงตัว เพราะถ้างานนี้กระทบผลการเรียนก็ดูจะไม่เวิร์คเสียแล้ว

7.ฟิตภาษาให้เป๊ะ

หลักสูตรส่วนใหญ่ที่คนไทยเลือกเรียนต่อในต่างประเทศจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เพราะถือว่าเป็นภาษาสากล นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนอยากเรียนต่อต้องฝึกทักษะภาษาอังกฤษให้รอบด้าน ทั้งการฟัง พูด อ่าน หรือเขียน เพื่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมคลาสและศึกษาต่อแบบสบาย ๆ 

ที่สำคัญ คุณต้องไม่ลืมว่าขั้นตอนการยื่นเอกสารเพื่อเรียนต่อต้องมีผลการสอบวัดความสามารถด้านภาษาซะก่อน ไม่ว่าจะเป็น IELTS หรือ TOEFL ซึ่งหากคะแนนสอบของคุณอยู่ในเกณฑ์ดี ก็มีโอกาสที่คุณจะได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำ และอาจจะถึงขั้นชิงทุนการศึกษาเรียนฟรีไปเลยก็ได้นะ

Rabbit Care ขอแนะนำตัวช่วยด้านภาษาอย่าง VOXY คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่เหมาะกับผู้เรียนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ คุณสามารถออกแบบตารางเรียน เลือกระดับความยาก-ง่าย และเจาะจงทักษะที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง ที่สำคัญยังสามารถเลือกเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เหมาะกับคนที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

VOXY เป็นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะผู้เรียนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือท่องเที่ยวรอบโลก มีภาษาอังกฤษติดตัวไว้ รับรองว่าอุ่นใจขึ้นเยอะ หากใครสนใจสามารถสมัครผ่าน Rabbit Care เพื่อรับดีลพิเศษ และส่วนลดมากมาย ซึ่งทาง VOXY มีให้เลือกถึง 3 แพคเกจ ดังนี้

  • แพคเกจที่ 1 เรียน 3 เดือน ราคา 6,000 บาท
  • แพคเกจที่ 2 เรียน 6 เดือน ราคา 10,000 บาท
  • แพคเกจที่ 3   เรียน 12 เดือน ราคา 18,000 บาท

หากคุณเป็นคนที่กำลังวางแผนเรียนต่อต่างประเทศ ก็ลองเอาเช็กลิสต์นี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ รับรองว่าเส้นทางสู่การคว้าปริญญาบัตรจะไม่ไกลเกินเอื้อม ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมภาษาให้ฟิตพร้อมใช้งานอยู่เสมอล่ะ


บทความแคร์ไลฟ์สไตล์

แคร์ไลฟ์สไตล์

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ‘ช็อกโกแลต’ ทำมาจากอะไร มีประโยชน์อย่างไร และมีข้อควรระวังในการรับประทานอย่างไรบ้าง ?

ช็อกโกแลต ขนมชนิดโปรดในดวงใจของหลาย ๆ คนที่ช่วยสร้างความสุขให้ทุกครั้งเมื่อรับประทานนั้น ความจริงแล้วทำมาจากอะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
Nok Srihong
24/04/2024

แคร์ไลฟ์สไตล์

กรอบแว่น มีความสำคัญต่อบุคลิกภาพอย่างไร ? แนะนำวิธีเลือกกรอบแว่นแบบง่าย ๆ ให้เหมาะสมกับตัวเอง

กรอบแว่นสิ่งสำคัญสำหรับคนใส่แว่นที่ไม่ว่าจะตัดแว่นกี่ครั้งก็ต้องกลุ้มอกกลุ้มใจกับการเลือกกรอบแว่นใหม่แทบทุกครั้ง
Nok Srihong
22/04/2024

แคร์ไลฟ์สไตล์

Food Waste หรือ ขยะอาหาร คืออะไร เพราะอะไรถึงเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ?

Food Waste หรือ ขยะอาหาร เป็นปัญหาที่ทั่วโลกนั้นให้ความสำคัญกับการแก้ไขมาพักใหญ่ แต่สำหรับประเทศไทย มีเพียงผู้คนบางกลุ่มเท่านั้นที่มีความรู้ ความเข้าใจ
Nok Srihong
22/04/2024